'จิมมี่ ชวาลา' เศรษฐีใจบุญ ยื่นมือช่วยป้าป่วยก้อนเนื้อที่คอ
‘จิมมี่ ชวาลา’ เศรษฐีใจบุญ จ.นครศรีธรรมราช ยื่นมือช่วยป้าป่วยก้อนเนื้อที่คอ พร้อมส่งเข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลมหาราช
วันที่ 23 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊ก พี่ฟิล์ม น้องโฟร์ โพสต์เรื่องราวของป้าติ้ม ที่อาศัยบ้านเช่าในซอยพัฒนา 2 ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมระบุข้อความขอความช่วยเหลือทางโลกโซเชียล “คือเรื่องมีอยู่ว่า ลุง พี่ชายแม่มีเมียคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ลุงเราเสียไปแล้วค่ะ แต่ป้าสะใภ้ แกเป็นคนจังหวัดไหน อำเภอ ตำบลอะไร แกก็บอกไม่ถูกค่ะ รู้แต่ว่าแกเป็นคนทางภาคอีสาน แกบอกว่าออกจากบ้าน มาหางานทำตะลอนๆไปเรื่อย
ตั้งแต่แกยังไม่ทำบัตรประชาชน และไม่เคยกลับไปหรือติดต่อทางบ้าน ตอนนี้ลุงเสียชีวิตไปแล้ว แกอยู่คนเดียว ตอนนี้แกป่วยหนัก เป็นก้อนใหญ่ๆ ที่คอ และเจ็บมาก กินอะไรไม่ได้ นอกจากนมและน้ำ มีเพื่อนบ้านใกล้ๆ พาไปโรงพยาบาล แต่หมอไม่รับค่ะเพราะแกไม่มีหลักฐานอะไรเลย
“เราเลยนำเรื่องนี้ไปปรึกษากันในญาติๆ ปรึกษาทาง รพ.แจ้งกลับมาว่า จะทำให้เป็นคนไข้อนาถาได้ ก็ต้องเป็นคนที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ทาง รพ.จะได้มีหลักฐานยืนยันขอสิทธิตรงนี้จากต้นสังกัดให้ได้ แต่ปัญหาตอนนี้ คือแกไม่มีหลักฐานอะไรเลย บ้านเกิดแกเองก็จำไม่ได้ ทำให้ตอนนี้แกไม่ได้รับการรักษาที่ถูกทาง ต้องนอนทรมานอยู่ในบ้านเพียงลำพัง เงินก็ไม่มี เพื่อนบ้านหยิบยื่นให้กินเป็นบางครั้ง
วันนี้เข้าไปเยี่ยมแก เราเลยมีความคิดอยากช่วยเหลือแก แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก อยากขอความช่วยเหลือ และคำแนะนำจากเพื่อนๆ น้องๆ..ลุงป้า..น้าอาในประเทศคอน ด้วยค่ะ..ถือว่าเอาบุญนะค่ะ แกน่าสงสารมากๆๆๆ ค่ะ..ตอนนี้แกอยู่ใน ซอยพัฒนา 2 หัวถนน นครศรีธรรมราช ( บ้านแม่เราที่กั้นห้องเล็กๆให้แกอยู่ค่ะ..แต่แม่เราไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยค่ะ )..แกอยู่กับลุงเรามา 20 กว่าปี..พอลุงเสียชีวิตก็สงสารแก..จะผลักไสไล่ส่งแกก็คงใจดำเกินไป..เลยต้องดูแลกันตามมีตามเกิดค่ะ แกชื่อป้าติ้มค่ะ “
หลังจากมีการเผยแพร่ภาพและข้อความ ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่างพร้อมใจกันที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่ติดปัญหาที่สื่อสารกับป้าติ้ม ไม่ได้มากนัก เพราะความจำป้าติ้ม ไม่ดี และไม่มีหลักฐานประจำตัวใดๆ และป้าติ้ม ก็ไม่มีลูกที่คอยดูแล มีแต่เพื่อนบ้านที่คอยดูแลกันไปตามสภาพ ตอนนี้ต้องนอนอยู่ตลอด เจ็บคอ กินข้าวไม่ได้นอกจากนมและน้ำ
อย่างไรก็ตามมีสมาชิกเฟสบุ๊ก Thuenjit Pengmark ได้ให้ข้อมูลว่าป้าติ้ม บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดศรีษะเกษ กำลังตามเรื่อง และแชร์ให้เพื่อนๆ แถวศรีษะเกษ ได้รู้ เผื่อมีใครรู้จัก และต้องสืบกันยาว เพราะป้าติ้มออกจากบ้านตอนอายุ 13 ปี ขึ้นรถตู้เข้า กทม. จึงวอนสมาชิกในกลุ่มเฟสบุ๊ก “ประเทศคอน” หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีจิตเมตตา เข้าไปดูแลช่วยเหลือป้าติ้ม ที่ซอยพัฒนา 2 ถ.ราชดำเนิน (ใกล้สี่แยกหัวถนน) อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่คุณเดียร์ ซึ่งเป็นหลานของสามีป้าติ้ม เบอร์โทรฯ 061-9516195
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันนี้ 23 เม.ย.61 นายจิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญ ห้างผ้า จิมมี่ ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของนางกะถิน สุภาพ ( ป้าติ้ม บอก ) หรือ ป้าติ้ม อายุ 65 ปี มีอาการป่วยก้อนเนื้อที่ลำคอ กินอาหารไม่ได้ กินได้แต่น้ำและนมเท่านั้น ต้องทนทุกทรมานอย่างแสนสาหัส อย่างไรก็ตามสอบถามป้าติ้ม ซึ่งมีอาการหลงลืม จึงให้ข้อมูลอะไรไม่ได้แม้กระทั้งบ้านเกิดของตัวเอง ป้าติ้มก็ยังจำไม่ได้
โดยนายจิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญ เข้าให้การช่วยเหลือเพื่อประสานให้ป้าติ้ม ได้เข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช พร้อมกับฝากให้ทางญาติฝ่ายอดีตสามีของป้าติ้ม รวมทั้งเพื่อนบ้าน ให้หารือกันเรื่องจัดคนเฝ้าป้าติ้ม ที่โรงพยาบาล ในระหว่างรักษาอาการ ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเฝ้าดูแล ป้าติ้ม ตนรับผิดชอบเอง หากได้ข้อสรุปแล้วจะได้รีบนำป้าติ้ม เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ให้เร็วที่สุด ซึ่งสร้างความดีใจให้แก่ป้าติ้ม และญาติฝ่ายสามี รวมทั้งเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากน่ายจิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญ แสดงเจตนารมณ์เข้าช่วยเหลือป้าติ้มจึงขอตัวเดินทางกลับ โดยระหว่างทางเดินกลับจากบ้านป้าติ้ม เศรษฐีใจบุญ แวะเยี่ยมบ้านของชาวบ้าน โดยนั่งคุกเข่าพูดคุยกับแม่ลูกอ่อนที่กำลังอาบน้ำให้ลูกชายวัย1 เดือน พร้อมให้เงินส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายซื้อนมและเก็บไว้เป็นขวัญถุง รวมทั้งแจกเงินให้กับเด็กๆ ในชุมชนที่ห้อมล้อม จากนั้นเศรษฐีใจบุญ ก็ขอตัวเดินทางกลับร้านโดยรถสองแถว สายหัวถนน – สนามกีฬา สร้างความชื่นชมให้กับชาวบ้านในชุมชน โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นอย่างมาก
No comments:
Post a Comment